วันเสาร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2560

Tiger heart :: ตอนที่ 22 {เพราะรัก}

ตอนที่ 22 {เพราะรัก}



{CUT}


“เสือไม่สงสารเอิ้นเหรอ” ปากก็ตะล่อมผมด้วยคำพูด มือหนาก็จับมือผมแล้วพาไปวางไว้ที่กึ่งกลางกายที่ขยับขยายพร้อมใช้งาน

ผมรีบชักมือออกเหมือนเพิ่งสัมผัสของร้อนแต่ก็ถูกเจ้าของมันกดฝ่ามือเอาไว้แล้วพาลูบไล้จนสุดความยาว สีหน้าของคนตรงหน้าผมเปลี่ยนไป เขากัดปาก ใบหน้าแสดงออกถึงความซ่านเสียว มือหนาปล่อยมือของผมให้เป็นอิสระทว่าผมก็ยังไม่ละจากของในมือ ยังคงลูบไล้มันเหมือนตอนที่เขาสั่งสอน

เอวของผมถูกรวบกอดก่อนจะดึงรั้งให้ร่างกายของเราแนบชิดจนไร้ช่องว่าง

“มือเสือนุ่มจังเลย” เสียงพร่ากระซิบที่ข้างหูไม่ต่างจากการโยนฟืนลงบนกองไฟที่พร้อมจะประทุตลอดเวลา

ร่างกายของผมกระตุกวูบเมื่อมือหนาที่เคยลูบไล้แผ่นหลังเลื่อนมาข้างหน้า สอดเข้าไปในเสื้อเพื่อสัมผัสเนื้อแท้ ลากสูงขึ้นมาจนถึงแผ่นอก

“อื้อ...” ผมร้องเมื่อนิ้วเรียวปัดผ่านยอดอกแผ่วเบา

ตรงนี้มัน...เสียว

“รู้สึกดีเหรอ” คนถามขยับมามองหน้าผมแล้วยกยิ้มเจ้าเล่ห์ “เดี๋ยวเอิ้นจะทำให้เสือรู้สึกดีกว่านี้อีก”

เสื้อยืดถูกถลกขึ้นเหนือแผ่นอกก่อนใบหน้าหล่อเหลาจะซุกซบลงบนผิวหนังเปลือยเปล่า ริมฝีปากนุ่มพรมจูบไปทั่วบริเวณ

ผมรู้สึกเหมือนกำลังจะขาดใจ

ผมละมือจากท่อนเนื้อแข็งแกร่งเพื่อย้ายมาจับข้อมือข้างที่กำลังเล่นกับยอดอกข้างซ้ายของผม ทว่าความพยายามก็ไม่เป็นผล ยิ่งห้ามเขาก็ยิ่งสะกิดมันรัวเร็วจนผมหอบหายใจถี่

“เอิ้น อย่ากัด”

ผมร้องห้ามเมื่อเขาครอบปากลงบนยอดอกเล็กๆ ที่ถูกปลุกให้ดันแผ่นอกขึ้นมา ไม่รู้ว่าหมั่นเขี้ยวหรืออะไร อยู่ๆ ถึงได้ฝังเขี้ยวแหลมๆ ลงมาให้รู้สึกเจ็บแต่ถึงกระนั้นความซ่านเสียวจากเรียวลิ้นที่ปาดเลียและนิ้วร้ายซึ่งบดขยี้ยอดอกอีกข้างก็กลบเกลื่อนความเจ็บนั้นไปจดหมด

ยอดอกของผมถูกหยอกล้ออยู่เสียนาน คนถูกปรนเปรออย่างผมแทบจะหมดแรง

ผมแทรกนิ้วเข้าไปในเส้นผมสีเข้ม พยายามดึงรั้งให้ผละออกจากยอดอกที่ตอนนี้คงบวมเป่งเพราะถูกขบกัด ทว่าคนที่กำลังเพลิดเพลินก็ทำเพียงช้อนสายตาขึ้นมองแต่ปากกลับยังทำหน้าที่อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง

มันก็รู้สึกดีแต่ว่าถ้าบีบขยำและดูดเลียมากไปกว่านี้ผมกลัวว่าบางทีอกผมอาจจะเต่งตึงขึ้นมาเป็นสาวคัพซี

“เอิ้นพอแล้ว เจ็บ”

“แต่สีหน้าเสือไม่ได้บอกอย่างนั้น” เรายังคงสบตากัน

“เจ็บจริงๆ อื้อ อย่ากัดสิ” กัดอีกแล้วเป็นหมาเหรอวะ

“ถ้าไม่ให้กัดตรงนี้ให้เอิ้นกัดที่อื่นได้มั้ย”

“อื้อ เอิ้น” ผมยังไม่ทันตอบคำถามเขี้ยวแหลมก็ฝังลงบนแผ่นอกของผมซะแล้ว

ปาก ลิ้นและฟันทำงานประสานกันบนแผ่นอกของผมอย่างดีเยี่ยม คิดว่าแผ่นอกขาวๆ ของผมตอนนี้คงมีแต่ร่องรอยขบกัดแน่ๆ

“เอิ้นอย่าทำที่คอเดี๋ยวเป็นรอย” ผมรั้งใบหน้าของคนที่เม้มต้นคอผมเอาไว้

“ทำไมชอบห้ามจัง ถ้าห้ามอีกเอิ้นจะตามใจตัวเองแล้วนะ”

“ที่ทำอยู่เนี่ยไม่เรียกว่าตามใจตัวเองรึไงเล่า”

“เถียงเก่งนะเราอะ” ดุผมแล้วกดจูบหนักๆ ลงบนเรียวปาก “เดี๋ยวจะทำให้เถียงไม่ออกเลย”

“เอิ้น !?

ปลายจมูกโด่งลากไล้ขึ้นมาที่ใบหู เพียงเรียวลิ้นชื้นเข้ามาทักทายร่างกายของผมก็รับรู้ถึงความซ่านสยิว รู้ด้วยการดูหนังเอวีว่าตรงนี้ก็เสียวได้แต่เมื่อได้ลองด้วยตัวเองมันยิ่งกว่าที่เคยจินตนาการไว้เสียอีก

“อื้อ เอิ้น ตรงนั้น” ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองต้องการจะสื่ออะไร แค่อยากส่งเสียงเพื่อลดความเสียวซ่านที่ถูกปรนเปรอเท่านั้นเอง

“รู้สึกดีใช่มั้ยล่ะ”

แผ่นอกของผมถูกลูบไล้ขณะที่ลิ้นของเราพัวพันกันนอกริมฝีปาก ร่างกายของผมกระตุกเมื่อมือหนาสอดเข้าไปในบ็อกเซอร์ เขาลากนิ้วสัมผัสที่ต้นขา แม้ไม่ได้สัมผัสที่เจ้าเสือใหญ่โดยตรงแต่ตรงนั้นกลับรู้สึกตามไปด้วย

ผมรู้สึกปวดหนึบ อยากปลดปล่อย ครั้นเมื่อส่งมือลงไปเกือบจะสัมผัสที่กึ่งกลางกายของตนกลับถูกอีกฝ่ายตะครุบเอาไว้

“ไม่เอาสิ เอิ้นอยู่ตรงนี้ทั้งคนนะ”

เรียวลิ้นชื้นผละออกให้เห็นเส้นใยบางเบาที่เชื่อมระหว่างปลายลิ้นของเราทั้งคู่ ก่อนจะลากมันจากปลายคางเป็นทางยาวลงไปที่แผ่นท้อง

ผมผวาตัวแอ่นสะท้านเมื่อหลุมสะดือถูกหยอกเย้า

ต้นขาด้านในถูกลูบไล้ไม่หยุดหย่อน

“มันแข็งแล้วอะเสือ” กางเกงตัวบางถูกรั้งออกจากสะโพกให้เจ้าเสือใหญ่ออกมายืนตรงรับอากาศเย็นภายนอก

แผล้บ!!

“อ๊ะ!!” เพียงส่วนปลายถูกเลียเบาๆ ก็เสียวซ่านไปถึงก้านสมอง เสียงครางของผมนี่น้องเมอิยังต้องอาย “เอิ้นอย่า”

ผมร้องห้ามแต่ไม่ทันเสียแล้วเมื่อริมฝีปากอุ่นๆ ค่อยๆ จูบแผ่วเบาตั้งแต่โคนจรดปลายอย่างทะนุถนอม แต่คนถูกกระทำอย่างผมไม่รู้สึกอย่างนั้นเลย ทุกครั้งที่ถูกสัมผัสร่างกายของผมก็เหมือนจะปริแตก

ผมสอดมือเข้าไปในเส้นผมสีเข้มอีกครั้ง พยายามดึงรั้งใบหน้าหล่อเหลาออกจากบริเวณนั้นแต่เอิ้นแม่งโคตรดื้อ พอผมดึงเขาก็ครอบริมฝีปากลงมาก่อนจะผละออกเหมือนกำลังรูดไอติมโคน รูดไม่พอเสือกเลียอีก นี่ไม่ใช่ไอติมแท่งโว้ย นี่แท่งเนื้อมนุษย์ และอีกอย่างเจ้าของมันเสียวจะตายอยู่แล้ว จะทำอะไรก็รีบทำสักที

“เสือ” ผมถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อลูกชายผมได้รับอิสระจากโพรงปาก ทว่าโล่งใจได้ไม่เท่าไหร่ปากของผมก็ถูกรุกรานด้วยนิ้วเรียว “เลียหน่อย”

อะไรวะ

แม้สมองจะตั้งคำถามแต่ลิ้นผมกลับเลียที่นิ้วแกร่งนั้นจนมันเปียกชื้นตามที่เขาบอก

“อ๊า อึก...”

ขณะที่กำลังเพลิดเพลินกับการเลียนิ้ว ช่องทางที่เคยถูกรุกรานมาแล้วครั้งหนึ่งก็ถูกหยอกเย้าด้วยลิ้นชื้นที่ปาดเลียวนไปวนมา ใจคอจะไม่ให้หยุดเสียวซ่านสักวินาทีเลยหรือไงวะ ถึงแม้จะก่นด่าในใจแต่ก็ต้องยอมรับว่าตรงนั้นก็ให้ความรู้สึกดีไม่แพ้ข้างหน้าเลย

ผมกำผ้าปูที่นอนแน่น ไม่รู้ว่าปฏิกิริยาที่แสดงออกนี้เป็นไปตามธรรมชาติหรือเปล่าเมื่อผมขยับชันเข่าซึ่งเหมือนจะเป็นการเปิดทางให้คนที่กำลังปรนเปรอผมอยู่นั้นทำได้สะดวกขึ้น

“ฮ้า อึก อื้อ...”

ผมบิดเอวให้ถอยห่างจากเรียวลิ้นที่สอดเข้าไปในช่องทางเปียกชื้นแต่ก็ไร้ผล

การกระทำของเอิ้นทำให้ผมรู้สึกดีเกินไปจนตัดใจหยุดขัดขืนแล้วปล่อยตัวให้โอนอ่อนผ่อนตามเขาไป

มือหนาอีกข้างที่ว่างกอบกุมที่เจ้าเสือใหญ่ ขยับรูดเป็นจังหวะเดียวกับเรียวลิ้น ไม่นานเลยร่างทั้งร่างของผมก็บิดเกร็งปลดปล่อยความต้องการออกมาจนเปียกชื้นที่แผ่นท้องและมือหนา

“รู้สึกดีใช่มั้ยล่ะ”

นิ้วแกร่งถูกดึงออกจากโพรงปากของผม เขากดจูบลงบนหน้าผากเลื่อนลงมาที่ปลายจมูก แก้มแล้วขบเม้มที่ริมฝีปากบวมเจ่อ

เขามอบจุมพิตร้อนแรงให้ผมอีกครั้ง แน่นอนว่ามันทำให้ผมตื่นเต็มตาอีกหน

“อ๊ะ เอิ้น เสือเจ็บ อื้อ เจ็บ”

ผมร้องลั่นยกมือขึ้นกอดรอบคอคนบนร่างเมื่อนิ้วแกร่งชุ่มน้ำลายสอดเข้าไปในช่องทางเปียกชื้นด้านหลัง มันเจ็บมากเพราะนิ้วมือไม่ได้นุ่มเหมือนลิ้น

“ใจเย็นเด็กดี ค่อยๆ หายใจ”

น้ำเสียงปลอบประโลมและมือที่ลูบเส้นผมของผมป้อยๆ ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีขึ้นเลย ในเมื่อถูกรุกรานแช่ค้างอยู่แบบนี้ใครมันจะไปค่อยๆ หายใจได้วะ

ยิ่งปลอบผมก็ยิ่งหายใจแรงกว่าเดิมเสียอีก

“เอิ้นเอาออกเถอะ มันเจ็บ” ผมร้องขอปล่อยให้น้ำตาที่เอ่อคลอไหลอาบแก้ม

“ร้องไห้ทำไม อดทนนิดนึงนะเดี๋ยวก็รู้สึกดี” น้ำตาบนแก้มถูกจูบซับจนเหือดแห้ง น้ำเสียงและการกระทำอ่อนโยนดั่งพ่อพระทำให้ผมชะล่าใจ กระทั่ง...

“อื้อ เจ็บ เจ็บโว้ย” ผมร้องลั่นและตีขากับเตียงดังพั่บๆ เมื่อนิ้วที่สองถูกสอดเข้ามา

“เสือ” น้ำเสียงที่ใช้เรียกผมเปลี่ยนเป็นทุ้มต่ำ “บอกให้ค่อยๆ หายใจไง ผ่อนคลายหน่อย”
“บอกให้เอาออกไปไงเล่า มันเจ็บ ไม่ได้ยินหรือไงบอกว่ามันเจ็บ ฮืออออ”

ผมโวยวาย มือที่จิกผ้าปูที่นอนแน่นคลายออกแล้วเปลี่ยนเป็นระดมทุบสะเปะสะปะไปทั่วทั้งตัวของคนข้างบน

“ไม่รู้ด้วยแล้วนะ”

ไม่รู้อะไรเล่า

“อ๊ะ อึก!

นิ้วยาวถูกดันเข้าไปจนสุดก่อนจะขยับครูดวนมันอยู่ด้านใน กล้ามเนื้อของผมเริ่มผ่อนคลาย ความเจ็บปวดค่อยๆ ถูกแทนที่ถูกความเสียวซ่าน

“ดีขึ้นแล้วใช่มั้ยล่ะ”

ใบหูของผมถูกขบเม้มก่อนนิ้วที่สามจะแทรกเข้ามา มันคับแน่น อึดอัด เจ็บนิดหน่อยแต่เสียวมากกว่า ยิ่งในยามที่เขาขยับเข้าออกร่างกายของผมก็คล้ายจะปริแตกอีกครั้ง

เอิ้นก้มลงมามอบจุมพิตหวานให้ เราสลับกันดูดดึงลิ้นของกันและกันราวกับว่ามันคือเยลลี่รสเลิศ ไม่สนใจความชื้นแฉะที่ไหลเลอะขอบปาก สีข้างของผมถูกลูบไล้ จังหวะด้านล่างค่อยๆ รัวเร็วขึ้นจนผมเห็นแสงสว่างของปลายทางอยู่ลิบๆ อีกแค่อึดใจเดียวก็จะถึงจุดหมายทว่า...

“เอิ้น ทะ ทำไม”

“เอิ้นเข้าไปในตัวเสือได้มั้ย”

“มันจะเจ็บมั้ย” ถึงแม้ร่างกายจะรู้สึกว่างเปล่าต้องการบางอย่างมาเติมเต็มทว่าความกลัวก็ยังคงฝังลึกอยู่ในใจ

“เจ็บ แต่เอิ้นจะพยายามทำให้เจ็บน้อยที่สุด เสือเชื่อใจเอิ้นมั้ย”

เพียงถูกมองด้วยสายตาหวานล้ำผมก็พยักหน้าทันที และในขณะเดียวกันขาทั้งสองข้างของผมก็ถูกจับให้อ้าออกก่อนร่างหนาที่เปลือยเปล่าแต่ต้นจะแทรกเข้ามา

ท่อนล่างของเราแนบสนิทกัน มันร้อนมากจนเผลอคิดไปว่าพวกเรากำลังนอนกอดก่ายกันอยู่บนกองไฟ

ริมฝีปากของผมถูกครอบครองอีกครั้ง สะโพกแกร่งบดเบียดลงมาให้ท่อนเนื้อร้อนแนบสนิทไปกับด้านหลังของผม

“แป๊บนึงนะเสือ”

จูบร้อนๆ ผละออกไปพร้อมกับร่างแกร่ง ผมมองตามด้วยสายตาเชื่อมปรอยเห็นเอิ้นรื้อบางอย่างออกจากลิ้นชักที่หัวเตียง

เขากลับมานั่งที่ระหว่างขาผมเช่นเดิมก่อนจะใช้ปากกัดซองเล็กๆ สีเงินด้วยท่าทางที่เท่บาดใจ

“อย่ามองแบบนั้นสิ”

คงหมายถึงมองด้วยสายตาหวานๆ ล่ะมั้ง ผมก็ไม่อยากมองหรอกแต่มันห้ามตัวเองไม่ได้จริงๆ

“ช่วยใส่ให้หน่อยได้มั้ย”

ผมส่ายหน้า แค่นี้ก็เขินจะตายห่าแล้วครับ

“ถ้าเสือไม่ช่วยงั้นเอิ้นไม่ใช้นะ” ผมเบิกตากว้างก้มมองท่อนเนื้อที่ตื่นตัวอยู่ระหว่างขากับถุงยางอนามัยในมือแกร่ง อุตส่าห์ซื้อมาก็ใช้ๆ ไปเถอะ อย่าลีลามากนักเลย “เอิ้นล้อเล่นน่า”

เจ้าของห้องยกยิ้มร้ายกาจก่อนคว้ามือผมไปวางลงบนหน้าท้องแข็งแกร่ง ขณะที่เจ้าตัวสวมใส่เครื่องป้องกันเหมือนจงใจให้ผมมอง

ยิ่งมองร่างกายก็ยิ่งร้อนผ่าวเพราะการกระทำสุดแสนจะเร้าใจนั่น

“จะเข้าไปแล้วนะ”

จะทำอะไรก็ทำเถอะ มัวแต่พูดอยู่นั่นแหละ เดี๋ยวก็หมดอารมณ์หรอก

ร่างกายของผมถูกคร่อมทับอีกครั้ง ส่วนแข็งขืนถูกมือหนาพามาจดจ่อที่ช่องทางเปียกชื้นเมื่อท่อนขาของผมถูกยกขึ้นไปวางไว้บนหน้าขาแกร่ง

“อึก เอิ้น”

ผมโอบกอดแผ่นหลังของเอิ้นเอาไว้เมื่อท่อนเนื้อใหญ่โตถูกสอดแทรกเข้ามาจนสุด

มันเจ็บในคราแรกแต่เมื่อปรับตัวได้ความซ่านเสียวก็เข้ามาแทนที่

“ขยับได้รึยัง” เอิ้นกระซิบที่ข้างหู มือหนาลูบไล้สีข้างของผมอย่างปลอบประโลม

ผมพยักหน้ารับในทันทีเมื่อเริ่มรู้สึกอึดอัด

จังหวะรักเริ่มต้นอย่างเชื่องช้าและเนิบนาบเพื่อให้ผมปรับตัวและผ่อนคลาย

ผมกอดเขาแน่นยกตัวขึ้นเพื่อขบเม้มใบหูของเขา

เสียงทุ้มคำรามในลำคอก่อนจังหวะรักจะหนักหน่วงขึ้นจนร่างกายของผมสั่นคลอน

“อ๊ะ เอิ้น แรง แรงไป ไม่ไหว”

“ไม่ดีเหรอ” ผมสัมผัสได้ถึงความอุ่นร้อนที่ซุกอยู่ภายในกาย “อยากให้เอิ้นทำช้าๆ เหรอ”

จังหวะรักถูกผ่อนให้ช้าลง เขาดึงกายออกจนสุดแล้วดันเข้ามาในคราเดียว มันคับแน่นแต่ก็รู้สึกดีเกินจะบรรยาย เอิ้นทำอย่างนั้นซ้ำไปซ้ำมา ขณะที่ริมฝีปากของเราก็คลอเคลียกันไม่ห่าง

“เสือน่ารักมากเลยรู้มั้ย” จุมพิตประทับลงบนหน้าผากของผมก่อนปลายลิ้นชื้นจะแตะต้องที่เปลือกตา

“ฮือ เอิ้น เสือไม่ไหวแล้ว เสร็จพร้อมกันเถอะนะ”

“อื้อ แต่ต้องทำแรงๆ นะ”

เพียงผมพยักหน้ารับแรงบดอัดที่สะโพกก็แรงขึ้น หนักหน่วงขึ้น เสียงที่เปล่งออกมาจากลำคอฟังอย่างไรก็ไม่ได้ศัพท์

“อ๊า เสือ ดีจัง ข้างในเสือโคตรดี”

“ฮือ เอิ้น เอิ้น”

ผมเรียกชื่อเขาซ้ำไปซ้ำมาเหมือนกับแก่นกายที่ถูกดันเข้าดึงออกจนสุดครั้งแล้วครั้งเล่า แผ่นอกของผมแอ่นโค้งขึ้นก่อนที่เรียวลิ้นร้อนจะปาดเลียที่ยอดอก ผมสะบัดหน้ารัวอย่างไม่อาจต้านทานแรงกระสันที่ถูกปรนเปรอได้

“เอิ้น เอิ้น เอิ้น อ๊ะ อื้อ”

“อืม เสือ”

หยดน้ำขาวข้นกระจายเต็มแผ่นท้อง ขณะที่คนบนร่างของผมกระทั้นกายถี่รัว ร่างกายของเราทั้งคู่กระตุกเกร็ง แผ่นอกของผมสะท้านไหว เสียงหอบหายใจดังถี่รัว

“เอิ้นรักเสือนะ”

เราสบตากันด้วยสายตาหวานซึ้งก่อนเอิ้นจะแนบริมฝีปากลงมามอบจุมพิตหวานซ้ำๆ

กระทั่งทุกอย่างสงบนิ่งเขาจึงทิ้งตัวลงกลางอกของผม เส้นผมของเขาเปียกชื้นจากการใช้กำลังอย่างหนักหน่วง ตัวผมเองก็ชื้นไปด้วยเหงื่อเช่นกัน

“ได้กอดเสือไว้แบบนี้เหมือนฝันเลย”

“เจ็บจะตาย ฝันอะไรกันล่ะ”

“ถ้าเจ็บเสือก็ต้องร้องไห้แล้วสิ เมื่อกี้ได้ยินแต่เรียกชื่อเอิ้น เอิ้น เอิ้น เสียงหวานเชียว”

“หยุดพูดเลยนะ แล้วก็ลุกออกไปซักทีหนักจะแย่แล้ว” ผมดันใบหน้าคนพูดมากออกจากอกแต่ก็อย่างที่บอกว่าเอิ้นแม่งโคตรดื้อ ยิ่งผมผลักไสก็ยิ่งซุกหน้าลงบนอกแล้วจูบย้ำๆ

“ตรงนี้รู้สึกดีใช่มั้ย”

“อื้อ อย่าจับ”

“ไม่ได้จับซักหน่อย” เออแม่งไม่ได้จับแต่จูบและเลียเลยล่ะ นั่นหน้าอกโว้ยไม่ใช่อมยิ้มจะเลียอะไรนักหนา

“ไม่ไหวแล้วเอิ้น” พอถูกรุกเร้าไอ้ลูกเสือของผมก็เหมือนจะลุก แต่ผมโคตรเพลีย อยากนอนมากๆ ด้วย

“ไม่สงสารเอิ้นเหรอ”

ก่อนหน้านี้ก็พูดแบบนี้ทีนึงแล้วก็เสร็จไปทีนึง ไม่เหนื่อยบ้างเหรอวะ แต่คงไม่เหนื่อยหรอกเพราะไอ้ที่ค้างคาอยู่ในตัวผมเริ่มแสดงอิทธิฤทธิ์อีกแล้ว

คิดว่าคืนนี้ผมจะได้นอนมั้ย ไม่รู้อะ ไม่รู้แล้วโว้ย



กลับไปคอมเมนต์ให้ชื่นใจหน่อย ขอบคุณค่ะ