ตอนที่ 5 {เสือใหญ่}
{CUT}
“ร้ายกาจ”
ว่าแล้วก็ผงกศีรษะขึ้นมายิ้มร้ายทำผมงงไปหมดแค่ขอน้ำกินมันร้ายกาจตรงไหนวะ
และก็ถึงบางอ้อเมื่อไอ้เจ้าของห้องลุกขึ้นนั่งคุกเข่าแล้วแหวกเสื้อคลุมอาบน้ำออก
ขยับเข้ามานิดเพื่อให้เอิ้นน้อยที่ยังซุกตัวอยู่ในเสื้อคลุมอยู่ในระดับเดียวกับใบหน้าผม
“ไอ้เวร”
อยากจะด่ายาวกว่านี้อีกสักกิโลเมตรแต่คอแห้งไงด่าได้เท่านี้ ถือว่าเป็นบุญของมัน
“ทำไมล่ะ เสืออยากดื่มน้ำไม่ใช่เหรอ”
ไอ้เอิ้นว่าด้วยน้ำเสียงแผ่วแล้ววางมือลงบนหลังมือของผมซึ่งวางอยู่บนต้นขาเพื่อผลักมันออกห่าง
“กูหมายถึงน้ำ ไม่ได้หมายถึงของมึง อย่าให้กูต้องพูดมากได้มั้ย
เมาอยู่นะเนี่ย”
“รู้ครับรู้ ถ้าเสือไม่เมาคงไม่นอนนิ่งๆ ให้เอิ้นกอด ถูกมั้ย”
อือ ก็ถูกของมัน
ไออุ่นจากผิวกายที่สัมผัสกันผละห่างออกไป
ไม่นานนักคนเป็นเจ้าของห้องก็ถือเหยือกน้ำกลับมา เตียงนอนอ่อนยวบลงเมื่อร่างหนาทิ้งกายลงบนเตียง
เอิ้นค่อยๆ คลานเข้ามาหาผม มือเย็นๆ วางลงบนต้นแขนลากขึ้นมาที่หัวไหล่ บีบเบาๆ
แล้วโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้
ผมเห็นว่ามันอมน้ำไว้เต็มกระพุ้งแก้ม
ไม่อยากจะยอมรับแต่ริมฝีปากกลับอ้าเผยอเมื่อริมฝีปากสีอ่อนขยับเข้ามาใกล้ น้ำใสๆ
ถูกส่งมา ความเปียกชื้นถูกแทนที่ด้วยความนุ่มหยุ่นที่เบียดชิด
เอิ้นป้อนน้ำให้ผมจนหมด รสชาติหวานอย่างประหลาดถูกส่งผ่านเข้าไปในลำคอบางส่วน
และบางส่วนก็ไหลผ่านขอบปากออกมาเปรอะเปื้อนที่ลำคอ
บางทีเอิ้นเองก็อาจจะกระหายน้ำเหมือนกัน
ริมฝีปากรสชาติหวานๆ ผละออกอ้อยอิ่ง ดวงตาสั่นไหวจ้องลึกเข้ามาในดวงตาผมก่อนที่ความเสียวแปลบจะลามเลียไปทั่วผิวกายเมื่อหยาดน้ำที่เปรอะเปื้อนตั้งแต่ปลายคางระเรื่อยไปถึงแผ่นอกถูกกวาดเก็บด้วยลิ้นชื้นที่ลากผ่านอย่างเชื่องช้า
กล้ามเนื้อทั้งร่างกายของผมกระตุกเกร็งเมื่อหน้าอกถูกริมฝีปากอุ่นจูบซ้ำๆ
ผมวางมือลงบนไหล่แกร่งพยายามดันร่างมันออกแต่ก็ช่างไร้ประโยชน์
“ไม่ชอบเหรอ”
อืม ไม่รู้สิ
“แต่เอิ้นว่าเสือชอบนะ ตรงนี้...” เสือใหญ่อันเปลือยเปล่าถูกสัมผัสด้วยฝ่ามือที่วางลงไปตรงกลางกายจนร่างกายผมสะท้าน
“…ตื่นแล้ว”
เถียงได้ไงเมื่อหลักฐานชัดเจนเสียขนาดนี้
“เอิ้นก็ตื่นเหมือนกัน” ไม่ต้องบอกก็ได้
มือด้วย ไม่ต้องพามือกูไปเจอกับหลักฐานหรอก ไม่อยากสัมผัสโว้ย
เกิดความเงียบงันขึ้นชั่วครู่ก่อนเสียงแลกเปลี่ยนน้ำหวานในโพรงปากจะเข้ามาแทนที่เมื่อจุมพิตอันหนักหน่วงตั้งแต่ในตอนต้นเริ่มขึ้น
ความรู้สึกที่ยังตกค้างอยู่ในส่วนหนึ่งของร่างกายชัดเจนขึ้นให้เรียวลิ้นที่เอาแต่หนีในคราแรกหยุดชะงักก่อนจะรวบรวมความกล้าแล้วลองส่งมันไปแตะกับส่วนเดียวกันที่พลิ้วไหวอยู่ภายใน
ความปลาบแปลบหลั่งไหลโอบล้อมร่างกายเช่นเดียวกับมือของผมที่กดท้ายทอยอีกฝ่ายเพื่อให้ริมฝีปากเราแนบชิดมากขึ้นอีก
ดีว่ะ ไม่เคยรู้ว่าจูบกับผู้ชายมันรู้สึกดีขนาดนี้
ไม่นับครั้งก่อนในห้องนอนของผม
ตอนนั้นมัวแต่โกรธจนหน้ามืดตาลายคิดแต่ว่าจะต้องกระทืบมัน
หากพอในร่างกายมีแอลกอฮอล์ปะปนอยู่ผมกลับโอนอ่อนผ่อนตาม
มือไม้จับสะเปะสะปะไปบนแผ่นหลังแกร่ง กอดมันอย่างที่ยามมีสติผมไม่มีทางทำแน่ๆ
“ชอบที่เอิ้นทำมั้ย”
“อ๊ะ!” ร้องเป็นสาวเวอร์จิ้นเลย
เกลียดตัวเองจังแต่ก็ต้องยอมรับว่าพอถูกมืออุ่นๆ ของคนอื่นมาคลึงๆ
ที่เสือใหญ่มันให้ความรู้สึกตื่นเต้นกว่าตอนสัมผัสด้วยตัวเองเยอะเลย
“ชอบล่ะสิ” ปากก็ขยับเพื่อถามส่วนมือก็ลูบเสือใหญ่ขึ้นๆ
ลงๆ ให้ผมกัดริมฝีปากสะกดกลั้นเสียงน่าอาย
ใครจะอยากครางอยู่ใต้ร่างผู้ชายวะ ผมเสือนะเว้ย
“รู้สึกดีใช่มั้ย”
“อ๊ะ!”
แผ่นอกของผมกระตุกเมื่อยอดอกถูกจูบย้ำๆ หลายครั้งก่อนที่ริมฝีปากจะครอบลงมา
เรียวลิ้นซึ่งก่อนหน้าเคยหยอกล้อกับลิ้นผมกำลังทำแบบเดียวกันกับจุดเล็กๆ
ที่รวมทุกความรู้สึกเสียวปลาบ
ผมผวาเฮือกกับความซ่านสยิว
เพิ่มแรงกอดรัดมันให้แน่นขึ้นแต่ก็ถูกดึงออกแล้วจับกดไว้กับฟูกนอน
ร่างแกร่งขึ้นมาคร่อมทับ นัยน์ตาของเขาทอประกายความปรารถนาชัดเจน ริมฝีปากขยับเป็นรอยยิ้มอ่อนโยนก่อนจะกดจูบลงบนหน้าผากของผมให้หลับตายอมรับความอ่อนโยนที่แทบจะไม่เคยสัมผัส
ความนุ่มหยุ่นลากลงมาที่ปลายจมูกขบมันด้วยเขี้ยวแหลมๆ
ให้ผมร้องด้วยเสียงผะแผ่ว
อีกครั้งที่ริมฝีปากของเราเบียดชิดกัน ความร้อนรุ่มเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่ได้สัมผัสจนผมตั้งตัวรับแทบไม่ทัน
ทำได้เพียงตอบรับเท่าที่คนธรรมดาคนหนึ่งจะทำได้
ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าไอ้เอิ้นมันช่ำชองขนาดนี้
ก่อนหน้าที่จะมาหาผมมันต้องเคยมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนแน่ๆ
ความคิดนั้นทำให้หัวใจของผมหนักอึ้งราวกับถูกถ่วงด้วยก้อนหินน้ำหนักมหาศาล
การกระทำเพื่อตอบสนองหยุดลงชั่วขณะให้คนที่รุกเร้าผมผละห่างแล้วจ้องลึกเข้ามาในดวงตา
“เป็นอะไรหืม”
มือเรียวลูบเส้นผมชื้นที่ปรกหน้าผากของผม
“มึงเก่งจัง”
“เก่ง?”
ต้องทำหน้าครุ่นคิดด้วยเหรอในเมื่อตอนนี้เราอยู่บนเตียงด้วยกัน
ผมก็ต้องพูดถึงเรื่องนี้อยู่แล้ว “อ๋อ แล้วเสือไม่ชอบเหรอ”
กว่าจะคิดได้ก็นานพอตัว
ผมส่ายหน้าหน่อยๆ แทนคำตอบ ไม่ใช่ไม่ชอบ ทุกสัมผัสทำให้รู้สึกดีแต่ว่า…
เพียงคิดถึงที่มาของความเก่งกาจก็พาลไม่พอใจซะอย่างนั้น
“ไม่ต้องห่วงนะตอนนี้เอิ้นมีเสือคนเดียว”
ผมกำลังมัวเมากับจุมพิตหวานๆ ที่ถูกป้อนให้หลังจากคำตอบที่ปัดเป่าความไม่พอใจออกไป
เสียงแลกเปลี่ยนน้ำหวานที่ไหลเลอะขอบปากยิ่งกระตุ้นให้ไฟในกายพัดโหม
ริมฝีปากของผมถูกขบเม้ม ความชื้นแฉะที่ปลายคางถูกกวาดเก็บไปจนหมด
เอิ้นฟอนเฟ้นเล้าโลมผมด้วยริมฝีปากที่จูบซับไปทั่วทั้งแผ่นอก ดูเหมือนว่ามันจะชื่นชอบหน้าอกของผมเป็นพิเศษถึงได้เฝ้าปาดเลียจูบซับอยู่อย่างนั้นซ้ำๆ
“ตรงนี่ของเสืออร่อยมากเลย”
เหลือบมองแล้วจึงขบตรงนั้นด้วยฟัน
จี๊ดเลยแต่มากกว่าความเจ็บคือความซ่านสยิวที่ทำเอาผมผวาขึ้นจนแผ่นหลังห่างจากฟูกนอน
เส้นผมของเอิ้นถูกผมขย้ำจนกระเซอะกระเซิงแต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอ
ผมบีบไหล่แกร่งแรงๆ จิกเล็บสั้นลงบนนั้นเมื่อลิ้นชื้นลากผ่านอกลงไปที่หน้าท้อง
หลุมสะดือถูกเย้าแหย่จนรู้สึกเสียดท้องแปลบๆ ที่จริงผมต้องผลักมันออก
หากในความเป็นจริงนั้นมือเวรกลับกดท้ายทอยให้ร่างกายแนบชิดกว่าเดิม
ให้ตายเถอะ ถ้าไม่เมาจนไร้สติเสือไม่มีทางทำแบบนี้แน่
“ไม่!!”
ถึงแม้จะร้องห้ามแต่ร่างกายของผมกลับตอบสนองด้วยการยกสะโพกขึ้นรับการปรนเปรอจากมือหนาที่กำลังลูบไล้เสือใหญ่แล้วรูดรั้งจนปวดหนึบ
เฮือก!!
ราวกับลมหายใจถูกพรากออกไป เมื่อริมฝีปากอุ่นๆ ที่เคยจูบซับตรงแผ่นท้องลากต่ำลง
โพรงปากครอบลงบนเสือใหญ่อย่างระมัดระวัง
สะโพกของผมลอยสูงขึ้นอีกเมื่อมือหนาสอดเข้ามาลูบไล้ที่แก้มก้น
เช่นเดียวกับลิ้นชื้นที่ปาดเลียทุกสัดส่วนของเสือใหญ่อย่างไม่นึกรังเกียจ
แต่ผมโคตรเกลียดตัวเอง
เกลียดที่ตอบสนองทุกการกระทำที่ปรนเปรอให้ มิหนำซ้ำยังส่งเสียงครางพร่าอย่างน่าอายให้ดังก้องอยู่ภายในห้อง
และเหมือนว่าไอ้เอิ้นจะชอบการกระทำนี้ของผม
ทุกความเคลื่อนไหวหยุดชะงักลงเมื่อดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยความเสน่หาเหลือบขึ้นสบกับผม
“รู้สึกดีรึเปล่า”
ครางขนาดนี้ กูคงกำลังรู้สึกแย่มั้ง
“เดี๋ยวเอิ้นจะทำให้เสือรู้สึกดีกว่านี้อีก”
เดี๋ยวในที่นี้หมายถึงเดี๋ยวนี้ใช่หรือเปล่าวะ
ให้ตายเถอะ นี่ไอ้เอิ้นคิดจะฆ่าผมทางอ้อมใช่ไหม
เมื่อมันกดจูบลงบนส่วนยอดของเจ้าเสือใหญ่ซ้ำๆ เหมือนจูบสัตว์เลี้ยงที่น่าเอ็นดู แค่นั้นยังคงไม่สาแก่ใจถึงได้ใช้ปลายลิ้นไล้เลียซะจนส่วนที่ชื้นอยู่แล้วถึงกับเปียกแฉะ
ตอนนี้เองที่ผมรู้สึกว่าร่างกายใกล้จะปริแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
ขาที่ถูกบังคับให้แยกออกเพื่อที่อีกฝ่ายจะได้แทรกเข้ามาได้ง่ายๆ นั้นบิดเกร็ง
ผมจิกเล็บสั้นกุดลงบนแผ่นหลังแกร่งแล้วลากลงมาเป็นทางยาวเพื่อระบายความซ่านสยิว
ร่างกายของผมเสียการควบคุม น้ำเสียงที่เปล่งออกมาเหมือนไม่ใช่เสียงตน
แต่มันจะไม่ใช่ได้อย่างไรในเมื่อมันดังออกมาจากริมฝีปากอันบวมเจ่อของผม
จังหวะลิ้นที่กำลังไล้เลียเสือใหญ่ในโพรงปากอุ่นๆ เปลี่ยนไป
เช่นเดียวกับจังหวะของปากที่ครอบแล้วขยับขึ้นลงนั้นก็กลายเป็นหนักหน่วงขึ้น
หากเปรียบสิ่งที่อยู่ในร่างกายผมคือลาวา
ตอนนี้มันคงเอ่อมาจนถึงปากปล่องภูเขาไฟแล้ว
“เอิ้น...”
ผมเรียกมันในจังหวะที่ยกสะโพกสูงขึ้นรับจังหวะโพรงปากที่ครอบลงมา
เลื่อนมือขึ้นมาเพื่อกดศีรษะมันเอาไว้แล้วจึงปลดปล่อยทุกความปรารถนาเข้าไปในโพรงปากนั้น
ทุกอย่างในหัวของผมถูกแทนที่ด้วยกลุ่มควันจางๆ ลอยฟุ้ง สักพักจึงค่อยๆ
จางลงเหลือเพียงความว่างเปล่า
ในหูได้ยินเพียงเสียงหอบหายใจของตน
ไม่รับรู้ถึงความเคลื่อนไหวหรือเสียงของสิ่งมีชีวิตอื่นใด
แค้กๆ
เสียงไอของสิ่งมีชีวิตอีกหนึ่งบนเตียงนี้ดังขึ้นใกล้ๆ
เมื่อลืมตาก็พบกับใบหน้าหล่อเหลาแดงซ่านซึ่งอยู่ใกล้เพียงแค่ลมหายใจขั้น
“ออกมาเยอะเลย ไม่ได้เอาออกนานเลยใช่มั้ย”
ต้องหน้าด้านแค่ไหนถึงกล้าถามอะไรแบบนี้ อยากจะตอบโต้อยู่หรอก
แต่ตอนนี้ร่างกายผมไม่ต่างอะไรจากโทรศัพท์มือถือที่แบตใกล้จะหมด
ดวงตาของผมค่อยๆ ปิดลงอย่างยากที่จะต้านทาน
“เสือ” เสียงไอ้เอิ้นดังอยู่ที่เดิม เพิ่มเติมคือมือที่จับไหล่แล้วเขย่าแรงๆ
เขย่าเข้าไปเถอะ อย่างไรก็ไม่มีทางลุกขึ้นมาทำอะไรได้อีกแล้วล่ะ
“เสือจะทิ้งเอิ้นไว้กลางทางแบบนี้ไม่ได้นะ เสือ เสือ เสือครับ เสืออออออ~”
เสียงคร่ำครวญแผ่วเบาลงพร้อมๆ กับสติของผมที่ดับวูบลง
กลับไปคอมเมนต์ให้ชื่นใจหน่อย ขอบคุณค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น